ประเทศไทยผ่อนคลายกฎเกณฑ์การค้าและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ความไม่สมดุลระหว่างเงินบาทกับสกุลเงินต่างประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและน่าตกใจ ทำให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยต้องผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเงินทุนที่ไหลออก ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวก็เพื่อลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท และกฎระเบียบเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนไปตามมาตราการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ การผ่อนคลายกฎเกณฑ์ดังกล่าวยังช่วยอำนวยความสะดวกในการฟื้นฟูผลกำไรจากการส่งออก การลงทุนของประเทศ การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ การโอนเงินออกนอกประเทศ และการชำระบัญชีการซื้อขายทองคำในสกุลเงินต่างประเทศ ในทางกลับกัน ช่วงของเอกสารเพิ่มเติมที่ยอมรับได้และการตรวจสอบเพื่อยื่นต่อธนาคารพาณิชย์จะเพิ่มขึ้นหรือเพิ่มขึ้นจาก 50,000 ดอลลาร์เป็น 200,000 ดอลลาร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งการเจรจาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและทำให้การโอนเงินออกง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจต่าง ๆ และนักธุรกิจหลาย ๆ คน

การปฏิรูป

ธนาคารแห่งประเทศไทยรับทราบในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศตั้งแต่มีผลบังคับใช้ของกฎระเบียบใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว ไม่ใช่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อันเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยกับหอการค้า ธนาคารพาณิชย์ไทย สถานประกอบการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทบทวนกฎ ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมกว่า 80 ฉบับ เป้าหมายคือการทำให้การเจรจาธุรกิจง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ในขณะที่ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมลง 

ขณะนี้ กฎเกณฑ์ในการปฏิบัติงาน ได้แก่ การเพิ่มขอบเขตของเอกสารที่ยอมรับได้ในการยื่นออนไลน์ให้กับธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเหล่านี้ให้สินเชื่อแก่ธุรกิจที่เป็นสกุลเงินไทยในประเทศใกล้เคียง ประเทศเหล่านี้จะต้องเป็นผู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรืออุตสาหกรรมที่ทำกำไรอื่น ๆ ให้กับประเทศไทย ขณะนี้การชำระเงินเป็นค่าสินค้าและบริการอาจทำได้โดยผ่านเครือข่ายการโอนเงินระหว่างประเทศ และไม่ใช่เพียงผ่านธนาคารตามปกติเท่านั้น ผู้นำในอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและการบริการ ต่างพากันเรียกร้องให้ออกกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เงินบาทลดค่าลงไปอีก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินที่สูงเกินทำให้นักท่องเที่ยวไม่สนใจจะเข้ามาในประเทศ และสนใจเดินทางไปเป้าหมายอื่นแทน ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 32.96 ดอลลาร์เหลือเพียง 30.13 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา

นโยบายการปฏิรูปอื่น ๆ ที่กำลังจะมีขึ้น ได้แก่ การยกเลิกการส่งงบการเงินก่อนลงทุนโดยใช้เงินต่างประเทศ และการให้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือรายละเอียดในรูปแบบที่กำหนด ผู้ค้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอาจทำธุรกรรมเป็นสกุลเงินต่างประเทศในเร็ว ๆ นี้ โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

การผ่อนปรนกฎเกณฑ์การค้าและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

เหตุผลสองประการว่าด้วยกฎระเบียบที่เปิดเสรีเหล่านี้คือการอนุญาตให้ผู้ส่งออกสามารถรักษารายได้เป็นสกุลเงินต่างประเทศนอกประเทศไทย โดยเฉพาะสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้คนไทยเป็นคนกลาง และทำให้การโอนเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศง่ายขึ้น การผ่อนคลายเหล่านี้อยู่ในรูปแบบของ:

1. การคืนรายได้จากต่างประเทศ

• การคืนรายได้จากต่างประเทศของผู้ส่งออกน้อยกว่า 200,000 เหรียญสหรัฐต่อใบตราส่งโดยไม่มีกำหนดเวลา บันทึกแสดงให้เห็นว่าใบตราส่งสินค้าในปี 2561 ในช่วงดังกล่าวมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกทั้งหมดของไทย
• รายได้ของผู้ส่งออกที่มากกว่า 200,000 ดอลลาร์อาจใช้รายได้ของตนเพื่อทดแทนรายจ่ายที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศโดยไม่จำเป็นต้องเรียกเงินคืน เพียงลงทะเบียนกับ ธนาคารแห่งประเทศไทยและส่งเอกสารที่ธนาคารพาณิชย์กำหนดเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย และ
• กฎระเบียบที่ครอบคลุมการฝากเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารในประเทศจะมีการจัดโครงสร้างใหม่เพื่อให้การจัดการสกุลเงินต่างประเทศมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้ ทางการไทยเชื่อว่า มาตรการเหล่านี้จะช่วยลดต้นทุนการโอนเงินระหว่างประเทศและควบคุมความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังได้ประสานงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อเพิ่มขอบเขตรายได้จากการส่งออกที่ไม่ต้องส่งกลับประเทศเป็น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อใบตราส่งภายในสามเดือนข้างหน้า

2. การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

• มาตรการผ่อนคลายเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้มากถึง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยไม่ต้องผ่านสถาบันตัวกลางของไทย ในอดีต พวกเขาจำเป็นต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การเป็นเจ้าของสินทรัพย์เพื่อทำการลงทุนโดยตรง
• สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไทยจะเพิ่มวงเงินการลงทุนโดยรวมสำหรับนักลงทุนที่ควบคุมไว้ที่ 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เชื่อกันว่าจะช่วยเร่งความต้องการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น มาตรการใหม่นี้ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถรักษาวงเงินการลงทุนที่กำหนดไว้เป็นระยะเวลานานขึ้น ซึ่งจะทำให้การวางแผนการลงทุนและการจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. การโอนเงินออกนอกประเทศ

นักลงทุนที่มีประวัติดี ๆ จะได้รับอนุญาตให้โอนเงินได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนนักลงทุนที่มีประวัติไม่ค่อยจะดีนักจะเป็นนักลงทุนกลุ่มที่อยู่ระหว่างการเจรจา FX THB กับสถาบันการเงินต่างประเทศ

• ในกรณีที่ผู้ลงทุนประสงค์จะย้ายธุรกิจออกจากประเทศไทยหรือส่งเงินทุนให้ญาติในประเทศอื่น ๆ จะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องการโอนเงิน ผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์นอกประเทศไทยจะถูกจำกัดไว้ที่ 50 ล้านดอลลาร์ต่อปีเหมือนในอดีต แต่ปัจจุบันกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินสามารถจดทะเบียนในนามของสมาชิกในครอบครัวได้ มาตรการผ่อนคลายนี้เชื่อว่าจะส่งเสริมและส่งเสริมการอพยพย้ายถิ่นฐาน และการส่งเสริมการไปศึกษาต่อในต่างประเทศมากขึ้น
• หากต้องการโอนเงินน้อยกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ผู้โอนไม่จำเป็นต้องมีเอกสารยื่นกับธนาคารพาณิชย์ที่จะทำธุรกกรรมด้วย

4. การชำระราคาซื้อขายทองคำในสกุลเงินต่างประเทศ

• มาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถดำเนินชำระราคาซื้อขายทองคำในสกุลเงินต่างประเทศดังกล่าวกับบริษัทค้าทองคำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติ ในอดีตสามารถทำได้เฉพาะสกุลเงินไทยในท้องถิ่นเท่านั้น กล่าวคือเงินบาท แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงและมีมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ จึงเป็นลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทในซื้อขายทองคำได้ ขณะนี้นักลงทุนยังสามารถรักษารายได้สกุลเงินต่างประเทศจากการทำธุรกรรมทองคำในบัญชีสกุลเงินต่างประเทศของตนได้ โดยไม่จำเป็นต้องแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินบาทเพื่อทำการซื้อในอนาคต

ทางการไทยเชื่อว่าการผ่อนคลายนี้จะทำให้นักลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2019) ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมอนุมัติการซื้อขายทองคำล่วงหน้าโดยสกุลเงินต่างประเทศในระยะต่อไปของการผ่อนคลายดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลงที่คาดหวัง: นักลงทุนที่ผ่านการรับรอง

ก่อนที่จะมีการนำกฎระเบียบใหม่มาใช้ มีผู้ลงทุนเพียง 11 ประเภทเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสารต่างประเทศโดยตรง ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนที่มีคุณสมบัติ หรือ QI ซึ่ง QI คือบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีการลงทุน หรือเงินฝากมูลค่าตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป กฎระเบียบที่ขยายออกไปจะทำให้ QI มีสิทธิ์ลงทุนในธุรกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งรวมถึง อนุพันธ์ OTC การประกันชีวิตสากล กรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน และการประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ กฎระเบียบใหม่จะยกเว้นหรือขจัดข้อจำกัดที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ในประเทศที่ QI เหล่านี้อาจลงทุนด้วย

Category: กฎหมายธุรกิจ